24 เมษายน วันเยื่อหุ้มสมองอักเสบโลก (WORLD MENINGITIS DAY)

24 เมษายน 2567

คณะแพทยศาสตร์

เยื่อหุ้มสมอง ทำหน้าที่เป็นเนื้อเยื่อส่วนที่ห่อหุ้มสมอง ปกป้องสมองไม่ให้ถูกกระทบกระเทือนรบกวนด้วยสารเคมี และสารพิษต่างๆ รวมถึงไขสันหลังด้วย เมื่อไหร่ก็ตามที่มีความผิดปกติของเยื่อหุ้มสมอง โดยเฉพาะการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองก็จะทำให้เกิดสภาวะที่เรียกว่า “เยื่อหุ้มสมองอักเสบ”ได้ หากควบคุมไม่ได้ เชื้อจะลุกลามและเข้าไปอยู่ในเนื้อสมอง ส่งผลให้สมองอักเสบขึ้นมา

สาเหตุที่ทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
มีหลายสาเหตุด้วยกัน ได้แก่
1.การติดเชื้อในทุกที่ของร่างกาย อาทิ ติดเชื้อทางเดินหายใจ หรือระบบทางเดินปัสสาวะ หากควบคุมไม่ได้ก็จะเริ่มเกิดกระบวนการที่เรียกว่าติดเชื้อในกระแสเลือดได้ เมื่อเลือดอุดมไปด้วยแบคทีเรีย จึงมีโอกาสที่เชื้อโรคจะแพร่ไปตามเลือดเกาะไปตามเนื้อเยื่อหุ้มสมองทำให้เกิดการอักเสบเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อได้ทุกระบบ สุดท้ายจบด้วยอาการของโรคเยื้อหุ้มสมองอักเสบ
2.เกิดจากการทำงานของภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ

อาการของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
1. มีไข้
2. ปวดศีรษะรุนแรง จนกระทั่งทนไม่ได้ ทานยาลดอาการปวดแล้วไม่หาย
3. คอแข็ง ขยับคอลำบาก หมุนคอซ้าย ขวา ก้มหน้าไม่ได้
4. แพ้แสง แพ้เสียง เมื่อพบแสงที่จ้า หรือเสียงดัง จะมีอาการปวดศีรษะตามมาได้ เพราะฉะนั้น อาการที่เด่นชัด สำหรับผู้ป่วยที่แตกต่างจากระบบติดเชื้ออื่นๆ

ความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
1. พบในบุคคลที่อายุมากเกิน 50 ปีขึ้นไป
2. การได้รับยากดภูมิคุ้มกันต่างๆ ผู้ป่วยบางรายเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง อาทิ โรค SLE โรครูมาตอยด์ เป็นต้น
3. กลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ
4. การรับประทานอาหารบางอย่างที่ไม่เหมาะสม อาทิ โรคหูดับ ที่เกิดจากการรับประทานอาหารดิบ โดยได้รับเชื้อสเตรปโตคอคคัส ซูอิส ที่พบในหมูดิบ หรือลาบดิบ แล้วส่งผลทำให้หูดับได้ ซึ่งก่อนที่หูจะดับ จะต้องผ่านกระบวนการเยื่อหุ้มสมองอักเสบก่อนเสมอ เพราะเซลล์ประสาทที่รับเสียง จะถูกหุ้มด้วยเยื่อหุ้มสมองอีกทีหนึ่ง เพราะฉะนั้นผู้ป่วยจะต้องผ่านกระบวนการที่เรียกว่าเยื่อหุ้มสมองอักเสบก่อนเสมอ

แนวทางการรักษา
1. แพทย์จะให้การรักษาโดยยาปฏิชีวนะ แล้วแต่ดุลยพินิจของแพทย์
2. สำหรับผู้ป่วยภูมิคุ้มกันผิดปกติ แพทย์จะให้การรักษาโดยการให้ยากดภูมิคุ้มกัน
การรักษาสามารถหายขาดได้ ถึงแม้ว่าโรคนี้จะระบาดไม่มากในประเทศไทย แต่จำนวนผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปีละ 1 พันราย ยังไม่รวมผู้ป่วยที่รอดชีวิตแต่พิกลพิการ อย่างโรคหูดับ เป็นต้น

การป้องกัน
1. การรับประทานอาหารต้องสุก สะอาด ผักดิบผักสดควรหลีกเลี่ยง
2. รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ หมั่นออกกำลังกาย
3. ห้ามซื้อยารับประทานเอง โดยไม่มีข้อบ่งชี้ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการมีภูมิคุ้มกันที่ตกโดยไม่จำเป็น เช่น ยาหม้อตามพื้นบ้าน ยาลูกกลอน เนื่องจากยาทั้งหมดนี้มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์
(สำหรับปัจจัยเรื่องของอายุที่มากขึ้นไม่สามารถป้องกันได้)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ผศ.นพ.ชุติเทพ ทีฆพุฒิ อาจารย์หน่วยประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มช.
เรียบเรียง : นางสาวนันทพร ระบิน
ภาพ / ข่าว : กลุ่มงานสื่อสารองค์กร
งานประชาสัมพันธ์
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
แกลลอรี่