CMU
Curricular
Seperating Faculties
Search for Curriculums
Bachelor’s Degree
Master’s Degree
Doctoral Degree
Other Curriculums
|
Studying at CMU
Application of Bachelor's Degree
Application for Graduate Studies
Application of International Program
CMU Presidential Scholarship
|
Faculties and Departments
Faculties
CMU’s Organizations
Other Division
|
TH
EN
CN
TH
EN
CN
Curricular
Seperating Faculties
Search for Curriculums
Bachelor’s Degree
Master’s Degree
Doctoral Degree
Other Curriculums
Studying at CMU
Application of Bachelor's Degree
Application for Graduate Studies
Application of International Program
CMU Presidential Scholarship
Faculties and Departments
Faculties
CMU’s Organizations
Other Division
News
Research and Innovation News
Outstanding News
Outstanding Staff
Prize and Pride
Conference and Seminar
Executives' News
Job Application
Procurement
Event Calendar
COVID-19 and PM2.5
About CMU
Background
The 60th Anniversary of Chiang Mai University
Resolution/ Vision/ Mission/Values and Organizational Culture
Authority
The University’s Logo
About CMU
Open Data Integrity and Transparency Assessment : OIT
CMU 360
Sustainable Development Goals
Organizational Structure and Administration of Chiang Mai University
Education Development Plan 5 years
Committee of University Council
Executives
Deans
Directors
Employee Council
Download CMU Powerpoint Template
Q&A
Privacy Policy
Contact
Suggestion
ข่าว
ทีมแพทย์และพยาบาล รพ.สวนดอก สนธิกำลังทีมพยาบาลบ้านธรรมปกรณ์ ช่วยผู้สูงอายุติดเชื้อโควิด-19 ทั้งลงพื้นที่ และการรักษาผ่านระบบทางไกล เพื่อเพิ่มศักยภาพการรักษาสูงสุด'
30 ตุลาคม 2564
คณะแพทยศาสตร์
ผศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์ การติดเชื้อโควิด-19 ของผู้สูงอายุบ้านธรรมปกรณ์ ว่า " ในตอนเริ่มต้น ที่ทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้รับแจ้งเมื่อวันอังคารที่ 26 ตค. 64 ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ติดเชื้อจากบ้านธรรมปกรณ์เบื้องต้นเป็นผู้สูงอายุ จำนวน 16 ราย โดยมีอาการน้ำมูก และไอ เราจึงได้ทำการคัดแยกแล้วส่งตรวจ RT-PCR ทั้งหมด พบว่าผลเป็นบวก และเนื่องจากบ้านธรรมปกรณ์ เป็นเขตในการดูแลด้านสุขภาพ และวัคซีนของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หลังจากนั้นทีมแพทย์จึงได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อทำการประเมินสถานการณ์ รวมถึงสถานที่ พร้อมให้คำแนะนำในการคัดแยก เพราะกรณีมีผู้สูงอายุจำนวน16 รายเจ็บป่วยพร้อมๆกันในลักษณะนี้ ระบบของโรงพยาบาลไม่สามารถมีเตียงรองรับได้เพียงพอ เพราะผู้ป่วยกลุ่มนี้ต้องการการดูแลเป็นกรณีพิเศษ และต้องใช้พื้นที่ค่อนข้างมาก ทั้งไม่สามารถอยู่แบบแยก ที่เรียกว่า community isolation ได้ เพราะผู้สูงอายุ จำเป็นต้องมีผู้ดูแล รพ.จึงตัดสินใจดูแลในบ้านธรรมปกรณ์ โดยมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิดในผู้ป่วย 16 รายแรก โดยส่งทีมแพทย์และพยาบาลเข้าไปสนธิกำลังกับพยาบาลของบ้านธรรมปกรณ์ เพื่อเริ่มการให้ยาฟาวิพิราเวียร์ และการติดตามอาการ รวมถึงผู้สูงอายุที่เหลืออีกจำนวน 106 คน ที่ยังไม่ได้รับการตรวจ รวมถึงกลุ่มพี่เลี้ยงหรือผู้ดูแล อีกประมาณ 40 คน ซึ่งยังไม่ได้รับการตรวจเช่นเดียวกัน โดยดำเนินการใน 2 ส่วนได้แก่ ส่วนที่ 1 ดำเนินการนำกลุ่มพี่เลี้ยงหรือผู้ดูแลมาตรวจที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ส่วนที่ 2 ได้ขอความร่วมมือไปยังงานระบาดวิทยาและสาธารณสุขจังหวัด โดยเป็นการส่งรถพระราชทานเคลื่อนที่ลงไปทำการตรวจ RT-PCR สำหรับผู้สูงอายุที่ยังคงพักอยู่ในบ้านธรรมปกรณ์ ซึ่งได้คัดแยกไว้
ซึ่งหลังจากดำเนินการดังกล่าวพบว่ามีผู้ป่วย นอกเหนือไปจาก 16 รายนี้แล้ว ยังมีกลุ่มผู้ดูแลอีกจำนวนหนึ่งติดเชื้อด้วย และผู้สูงอายุ อีกจำนวนประมาณ 40 ราย ติดเชื้อเพิ่ม รวมทั้งสิ้น ณ ขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อประมาณ 70 ราย
ซึ่งไม่สามารถนำผู้ป่วยเหล่านี้เข้าสู่โรงพยาบาลฯ ทั้งไม่สามารถนำเข้าสู่ community isolation ได้ ด้วยเหตุที่ทั้ง 70 ราย เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีน astrazeneca จำนวน 2 เข็มครบแล้วซึ่งทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ได้ไปดำเนินการฉีดที่บ้านธรรมปกรณ์เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ถือว่ามีภูมิคุ้มกันในระดับหนึ่ง ซึ่งน่าที่จะสามารถป้องกันการป่วยหนักได้ ทาง รพ.จึงตัดสินใจให้การดูแลในบ้านธรรมปกรณ์ โดยการติดตามอย่างใกล้ชิดโดยใช้ระบบ Telemedicine โดยแพทย์และพยาบาลของ รพ. มหาราชนครเชียงใหม่ ร่วมกับทีมพยาบาลของบ้านธรรมปกรณ์ อย่างใกล้ชิด
สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ ได้มีการย้ายผู้ป่วยจำนวน 2 ราย ซึ่งมีโรคประจำตัวและโรคร่วม เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ที่ตึกสงฆ์อาพาธและอาคารโรคปอดนิมมานเหมินทร์ ชุติมา
ส่วนผู้ป่วยที่เหลือยังคงให้การรักษาอยู่ที่บ้านธรรมปกรณ์ โดยในวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้ส่งทีมเอกซเรย์เคลื่อนที่ ไปที่บ้านธรรมปกรณ์ทำการคัดกรองผู้สูงอายุที่มีอาการทั้งหมด เพื่อที่จะประเมินว่ามีภาวะติดเชื้อลงปอดหรือไม่ หากมีการติดเชื้อลงปอดแล้ว ผู้สูงอายุอาการจะเปลี่ยนแปลงเร็ว การเอกซเรย์ปอด จะเป็นเครื่องมือในการหาความเสี่ยงได้
โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้เริ่มให้ยาฟาวิพิราเวียร์กับผู้ป่วยกลุ่มนี้แล้ว ซึ่งการเริ่มต้นได้เร็ว จะทำให้ยาออกฤทธิ์เร็ว จะช่วยไม่ให้ผู้ป่วยเปลี่ยนจากผู้ป่วยสีเหลือง เป็นผู้ป่วยสีส้ม หรือสีแดง
ขณะนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อีกประมาณ 5-6 วันข้างหน้า ก็จะมีการตรวจ RT-PCR รอบที่ 2 ในผู้สูงอายุที่เหลือทั้งหมด เพราะในบางรายสัมผัสแล้วยังไม่ปรากฏเชื้อ บางรายสัมผัสแล้ว ไปปรากฏเชื้อในวันที่ 7 เพราะฉะนั้นการ swap รอบที่ 2 ในคนที่เหลือ จะทำให้ทราบว่ามีคนติดเชื้อเพิ่มอีกหรือไม่
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า " สถานการณ์ ณ ขณะนี้ ยังสามารถควบคุมได้ หากพบว่าท่านใดที่พักรักษา อยู่ที่บ้านธรรมปกรณ์ มีอาการหนัก ก็จะนำส่งมาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อการดูแลอย่างใกล้ชิดมากขึ้น วันนี้ทาง รพ.ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ทั้งได้แจ้งข่าวสารไปยังคณะทำงานด้านการดูแลรักษาโควิด ของทางจังหวัด โดยมีท่านนายแพทย์สาธารณสุข เป็นประธาน ซึ่งท่านได้ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
ขอให้ประชาชนทุกท่านไว้วางใจ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เราได้จำกัดวงของการระบาดไว้ในพื้นที่ และส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลแล้ว และจะทำให้ดีที่สุด เพื่อการรักษาให้ได้คุณภาพสูงสุด เพื่อให้ท่านที่พักอยู่ที่บ้านธรรมปกรณ์ ปลอดภัยทุกท่านครับ "
ภาพ / ข่าว : กลุ่มงานสื่อสารองค์กร
งานประชาสัมพันธ์
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ข่าวสาร (COVID-19)
ข่าวเด่น
ข่าวสาร PM2.5
แกลลอรี่
×
RoomID:
Room Name:
Description: