CMU
Curricular
Seperating Faculties
Search for Curriculums
Bachelor’s Degree
Master’s Degree
Doctoral Degree
Other Curriculums
|
Studying at CMU
Application of Bachelor's Degree
Application for Graduate Studies
Application of International Program
CMU Presidential Scholarship
|
Faculties and Departments
Faculties
CMU’s Organizations
Other Division
|
TH
EN
CN
TH
EN
CN
Curricular
Seperating Faculties
Search for Curriculums
Bachelor’s Degree
Master’s Degree
Doctoral Degree
Other Curriculums
Studying at CMU
Application of Bachelor's Degree
Application for Graduate Studies
Application of International Program
CMU Presidential Scholarship
Faculties and Departments
Faculties
CMU’s Organizations
Other Division
News
Research and Innovation News
Outstanding News
Outstanding Staff
Prize and Pride
Conference and Seminar
Executives' News
Job Application
Procurement
Event Calendar
COVID-19 and PM2.5
About CMU
Background
The 60th Anniversary of Chiang Mai University
Resolution/ Vision/ Mission/Values and Organizational Culture
Authority
The University’s Logo
About CMU
Open Data Integrity and Transparency Assessment : OIT
CMU 360
Sustainable Development Goals
Organizational Structure and Administration of Chiang Mai University
Education Development Plan 5 years
Committee of University Council
Executives
Deans
Directors
Employee Council
Download CMU Powerpoint Template
Q&A
Privacy Policy
Contact
Suggestion
ข่าว
ระวัง!!! มะเร็งเต้านม มะเร็งร้ายอันดับแรกที่หญิงไทยต้องระวัง
17 มกราคม 2567
คณะแพทยศาสตร์
มะเร็งเต้านม เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในเต้านม โดยเฉพาะเซลล์ท่อน้ำนม โดยเซลล์จะเริ่มแบ่งตัวผิดปกติแล้วลุกลามไปยังเนื้อเยื่อข้างเคียง จากนั้นหากปล่อยไว้ อาจแพร่กระจายไปยังเซลล์อื่น ๆ ในร่างกายได้ ผ่านทางเดินน้ำเหลือง อัตราการเกิดโรคของทั่วโลก พบว่าผู้หญิง 8 ราย จะพบโรคมะเร็ง 1 ราย อุบัติการณ์ของมะเร็งเต้านมในไทยคิดเป็น 37.8 ราย ต่อประชากรแสนราย ซึ่งในจำนวนนี้มีอัตราการเสียชีวิต 12.7 ราย ต่อประชากร 1 แสนราย
สาเหตุ
-ส่วนใหญ่เกิดจากฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนที่มีมากเกินไป
-ปัจจัยทางพันธุกรรม ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม การรับประทานอาหารประเภทไขมันสูง
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งเต้านม
-อายุที่มากขึ้น
-มีประวัติโรคมะเร็งเต้านมในครอบครัว
-น้ำหนักตัวมาก หรือเคยมีประวัติตรวจพบก้อนที่เต้านมมาก่อน
อาการของโรคมะเร็งเต้านม
-มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง
-ขนาดหรือสีผิวของเต้านม
-มีของเหลวไหลออกจากหัวนม หรือคลำเป็นก้อนได้ที่เต้านมหรือรักแร้
การตรวจมะเร็งเต้านม
-สามารถตรวจมะเร็งเต้านมได้ด้วยตนเอง สามารถคลำตรวจด้วยตนเองทำได้ทุกเดือน เมื่อคลำแล้วพบก้อนที่ผิดปกติ แล้วไม่สบายใจ ไม่แน่ใจ ให้เข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
-การตรวจเต้านมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เมื่อคลำแล้วพบก้อนที่ผิดปกติ แล้วไม่สบายใจ ไม่แนใจ
-การตรวจด้วยเครื่องถ่ายภาพรังสีเต้านม
จากรายงานทะเบียนมะเร็งระดับโรงพยาบาล ประเทศไทยส่วนมาก พบในระยะที่ 2 และระยะที่ 3 หากพบโรคตั้งแต่ระยะแรก โอกาสการรักษาที่จะหายขาดมากขึ้น
***ข้อแนะนำ ผู้หญิงไทยควรตรวจมะร็งเต้านมได้ด้วยตนเอง ภายใต้โครงการสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จย่า ต้านภัยมะเร็งเต้านม ตั้งแต่ปี 2542 รณรงค์ให้ประชากรหญิงไทยตรวจเต้านมด้วยตนเอง มีการศึกษาวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ พบว่าการตรวจด้วยตนเอง สามารถพบก้อนมะเร็งที่เต้านมได้เร็วขึ้น หากพบก้อนที่มีขนาดเล็กกว่า 2 เซนติเมตร มีอัตราการรอดชีวิตที่ดีกว่าคนที่พบก้อนเนื้อที่มีขนาดใหญ่แล้ว
อย่างไรก็ตาม การตรวจภาพรังสีเต้านม เป็นการตรวจหาโรคมะเร็งเต้านมที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดอัตราการพบมะเร็งเต้านมในระยะลุกลาม และสามารถเพิ่มการรอดชีวิต
การตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านม
ควรตรวจเมื่อประจำเดือนหมดไปแล้ว 7 – 10 วัน เพราะเป็นระยะที่เต้านมนิ่มแล้ว หากตรวจก่อนที่มีประจำเดือน หรือหมดประจำเดือนหมาดๆ จะตรวจเต้านมได้ยากและเจ็บ
-ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 20 ปี คลำเต้านมตัวเอง (BSE) ทุกเดือน ในช่วงอายุที่ไม่จำเป็นตรวจแมมโมแกรม
-ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปี คลำเต้านมตัวเอง (BSE) ทุกเดือน + ตรวจแมมโมแกรม ทุก 2 ปี
-ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปี คลำเต้านมตัวเอง (BSE) ทุกเดือน + ตรวจแมมโมแกรม ทุก 1 ปี
-ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปี คลำเต้านมตัวเอง (BSE) ทุกเดือน + ตรวจแมมโมแกรม ทุก 1-2 ปี
กลุ่มเสี่ยงที่ควรตรวจคัดกรองทุกปี
-ญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านม หรือมะเร็งที่รังไข่ที่อายุน้อยกว่า 50 ปี
-ผู้ที่มีประวัติเป็นมะเร็งเต้านม
-ผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยการฉายแสงบริเวณหน้าอก
-ผู้ที่มีประวัติชิ้นเนื้อเต้านมพบเซล์ผิดปกติ
-ผู้ที่ได้รับประทานฮอร์โมนเสริมทดแทนวัยหมดประจำเดือนเป็นประจำมากกว่า 5 ปี
แนวทางการรักษา
การรักษาหลักคือ การผ่าตัด ซึ่งแบ่งออกเป็นการผ่าตัดแบบสงวนเต้า และการผ่าตัดเต้านมออกทั้งหมด ในผู้ป่วยที่มีข้อบ่งชี้ อาจจำเป็นต้องให้การฉายรังสี และหรือการให้ยาเคมีบำบัด และหรือ การให้ฮอร์โมนบำบัดร่วมด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ)พญ.อิ่มใจ ชิตาพนารักษ์ อาจารย์หน่วยรังสีรักษาเเละมะเร็งวิทยา ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มช. และ ประธานเครือข่ายมะเร็งเต้านมภาคเหนือ
เรียบเรียง: นางสาวนันทพร ระบิน
ภาพ / ข่าว : กลุ่มงานสื่อสารองค์กร
งานประชาสัมพันธ์
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สุขภาพ
บทความ
ข่าวเด่น
แกลลอรี่
×
RoomID:
Room Name:
Description: