ความรักในวัยเรียนเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นตามพัฒนาการของเด็กวัยรุ่น แต่สำหรับพ่อแม่หลายคน ความรักของลูกอาจนำมาซึ่งความกังวลใจ กลัวว่าจะกระทบกับการเรียน หรือพาลให้ลูกหลุดจากเส้นทางชีวิตที่เคยวาดฝันไว้
อย่างไรก็ตาม ในฐานะจิตแพทย์ขอเน้นย้ำว่า “ความรักไม่ใช่ภัย หากพ่อแม่เข้าใจ และใช้การสื่อสารอย่างสร้างสรรค์”
ทำไมเด็กวัยรุ่นถึงสนใจความรัก
วัยรุ่นเป็นช่วงของการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกายและจิตใจ ฮอร์โมนเพศเริ่มทำงาน และสมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา เมื่อรวมกับแบบอย่างจากสื่อและสังคม จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะให้ความสนใจกับความรัก ความสัมพันธ์ และอารมณ์ความรู้สึก
ที่สำคัญคือ วัยรุ่นต้องการ “การยอมรับ” และ “การเป็นเจ้าของความรู้สึกของตนเอง” มากกว่าคำสั่งหรือข้อห้าม
บทบาทของพ่อแม่ในช่วงเวลานี้คืออะไร
1. เป็นผู้ฟังที่ดี
อย่าด่วนตัดสิน หรือตำหนิ เพียงเพราะไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมลูก พ่อแม่ควรเปิดพื้นที่ปลอดภัยให้ลูกกล้าเล่า กล้าแชร์ แม้จะเป็นเรื่องที่พ่อแม่ไม่อยากฟัง
2. สื่อสารด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่อารมณ์
หลีกเลี่ยงคำพูดประชด หรือตัดบท เช่น “โตไปจะเข้าใจเอง” หรือ “เรียนยังไม่จบ อย่าคิดเรื่องพวกนี้เลย” คำพูดเหล่านี้อาจปิดประตูการสื่อสารไปตลอด
3. โค้ชชีวิต ลดการควบคุม
ในโลกยุคใหม่ การเลี้ยงลูกวัยรุ่นด้วยคำสั่งหรือการควบคุมโดยไม่ฟังความเห็นของลูกอาจก่อให้ให้เกิดปัญหาตามมาได้ พ่อแม่ควรเปลี่ยนบทบาทมาเป็น “โค้ช” ที่ช่วยสะท้อนความคิด ชี้แนะแนวทาง ช่วยลูกตั้งเป้าหมายชีวิต และค่อยๆลดการควบคุมลง เพื่อให้ลูกได้หัด คิด เลือก ตัดสินใจ และ รับผิดชอบชีวิตของตัวเองให้มากขึ้น
ความรักส่งผลกระทบต่อชีวิตวัยรุ่นอย่างไร
ความรักสามารถเป็นทั้งแรงบันดาลใจและอุปสรรค วัยรุ่นบางคนเรียนดีขึ้นเพราะมีเป้าหมายร่วมกับคนรัก แต่ในขณะเดียวกันก็มีไม่น้อยที่เสียสมาธิ สูญเสียเป้าหมาย หรือมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การหนีเรียน การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ หรือความผิดหวังรุนแรงจนกระทบต่อสุขภาพจิต
พ่อแม่จึงควรช่วยลูกมองเห็นภาพรวมของชีวิต ไม่ใช่เพียงแค่ความรู้สึกในปัจจุบัน สอนให้รู้จักการจัดสมดุลระหว่าง “หัวใจ” และ “อนาคต” พูดคุยถึงผลกระทบทั้งด้านดีและไม่ดีจากความสัมพันธ์ และ คอยเป็นที่ปรึกษาให้ลูกได้เรียนรู้การมีความรักที่พอเหมาะ พอดี กับวัยของเขา โดยที่ก็ยังไม่สูญเสียความรับผิดชอบ หรือ ความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จในด้านอื่นๆของชีวิต
ความรักของพ่อแม่ยังสำคัญที่สุด
ลูกที่ได้รับความรัก การยอมรับ และเวลาอย่างเพียงพอจากครอบครัว จะมีภูมิคุ้มกันทางใจที่เข้มแข็งกว่าลูกที่เติบโตท่ามกลางคำตำหนิหรือความเฉยชา
เมื่อครอบครัวเข้าใจลูก ลูกจะกล้าปรึกษาเมื่อมีปัญหา ลูกจะไม่หลีกเลี่ยง แต่เผชิญความจริงอย่างมีสติ ลูกจะเรียนรู้ที่จะรักตนเอง และเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ที่ดี
“ความรักในวัยรุ่นไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หากพ่อแม่ใช้โอกาสนี้สร้างความเข้าใจและความผูกพันในครอบครัว”
จำไว้ว่าลูกอาจไม่ต้องการคำตอบจากเราเสมอไป… แค่ได้พูด ได้รับฟัง และได้รับความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข ก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยให้ลูกเติบโตไปอย่างมีความมั่นคงทางจิตใจ
ขอบคุณข้อมูลจาก :ผศ.นพ.อัศวิน นาคพงศ์พันธุ์ อาจารย์ประจำหน่วยจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่น ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มช.
เรียบเรียง: นางสาวนันทพร ระบิน
ภาพ / ข่าว : งานสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
#รักในวัยเรียน #พ่อแม่คุยกับลูกอย่างไร #สุขภาพดีกับหมอสวนดอก #MedCMU #คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #แพทย์เชียงใหม่ #แพทย์มช #หมอสวนดอก #โรงพยาบาลสวนดอก #Medcmuในมือคุณ #สื่อสารองค์กรMedcmu