CMU
หลักสูตร
แยกตามคณะ
ค้นหาหลักสูตร
ปริญญาตรี
ปริญญาโท
ปริญญาเอก
หลักสูตรอื่นๆ
|
การศึกษา
การรับสมัครปริญญาตรี
การรับสมัครระดับบัณฑิตศึกษา
การรับสมัครหลักสูตรนานาชาติ
ทุนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
|
คณะและหน่วยงาน
คณะ
หน่วยงาน
ส่วนงานอื่นๆ
|
TH
EN
CN
TH
EN
CN
หลักสูตร
แยกตามคณะ
ค้นหาหลักสูตร
ปริญญาตรี
ปริญญาโท
ปริญญาเอก
หลักสูตรอื่นๆ
การศึกษา
การรับสมัครปริญญาตรี
การรับสมัครระดับบัณฑิตศึกษา
การรับสมัครหลักสูตรนานาชาติ
ทุนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คณะและหน่วยงาน
คณะ
หน่วยงาน
ส่วนงานอื่นๆ
ข่าวสาร
ข่าวงานวิจัยและนวัตกรรม
ข่าวเด่น
ข่าวบุคคลเด่น
รางวัลและความภาคภูมิใจ
ประชุมสัมมนา/กิจกรรมของมหาวิทยาลัย
ภาพข่าวผู้บริหาร
ข่าวรับสมัครงาน
ข่าวจัดซื้อจัดจ้าง
ปฏิทินกิจกรรม
COVID-19 และ PM2.5
เกี่ยวกับ มช.
ประวัติความเป็นมา
60 ปี มช.
ปณิธาน/วิสัยทัศน์/พันธกิจ/ค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร
อำนาจหน้าที่
สัญลักษณ์มหาวิทยาลัย
เกี่ยวกับมช.
ข้อมูลสาธารณะ
CMU 360 องศา
SDGs
โครงสร้างองค์กรและการบริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
แผนพัฒนาการศึกษามช. ระยะ 5 ปี
คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย
คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย
ผู้บริหารส่วนงาน
ผู้บริหารหน่วยงาน
สภาพนักงาน
Download CMU Powerpoint Template
ช่องทางการสอบถามข้อมูล (Q&A)
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ติดต่อเรา
เสนอแนะ/ร้องเรียน
ข่าว
รู้ทัน รู้ป้องกันPM 2.5 ภัยร้ายก่อให้เกิดโรคสมอง
9 มีนาคม 2564
คณะแพทยศาสตร์
ปัญหา PM 2.5 ภัยร้ายที่คาดไม่ถึง ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ สำหรับเด็กจะส่งผลให้ไอคิวต่ำลง พัฒนาการช้าลง สมาธิสั้น ซึมเศร้า ในผู้ใหญ่ มีผลต่อโรคสมองเสื่อม ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์เพิ่มมากขึ้น หลอดเลือดสมองตีบ หรือหลอดเลือดสมองแตก บางรายเป็นโรคเหล่านี้แต่อาการไม่ปรากฎ เมื่อเจอหมอกควัน PM 2.5 จึงเกิดอาการทันที เมื่อมีฝุ่นควันพิษที่เรียกว่าควันพิษจิ๋ว เบื้องต้นเมื่อสูดเข้าไปในร่างกาย จะมีอาการคัดจมูก คอแห้ง มีอาการไอ เหนื่อยง่าย แต่ในความเป็นจริง PM 2.5 มีความร้ายแรงแอบแฝงมากกว่านั้น
หากเทียบ PM 2.5 กับเส้นผมของมนุษย์ เมื่อตัดเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นผม ขนาดของเส้นผมจะมีขนาด 50-70 ไมครอน แต่เมื่อดูตัวของฝุ่นพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ต่างๆที่ลอยไปในอากาศ ซึ่งเรียกว่า PM 2.5 จะมีขนาดเล็กถึง 25 เท่า เมื่อเล็กมากจึงสามารถผ่านเข้าตัวดักกรองเข้าไปในระบบหายใจเข้าไปยังบริเวณปอด และสามารถหลุดเข้าไปในกระแสเลือดไหลเวียนทั่วร่างกายได้
PM 2.5 มีผลต่อสมองทั้งทางตรงและทางอ้อม หลังจากที่มีการสูดดมเข้าไป ช่องโพรงจมูกจะเป็นทางผ่านที่ทำให้ PM 2.5 ผ่านเข้าไปที่สมอง และเซลล์ประสาทโดยตรง หรือแม้กระทั่งผ่านกระแสเลือดที่ย้อนกลับมาขึ้นสู่สมองได้ ผลกระทบเฉียบพลัน จะมีอาการระคายเคืองจมูก มึนงง ง่วง ซึม หลับ กระตุ้นให้เกิดไมเกรนมากขึ้น หากเป็นเด็กที่อยู่ในวัยเรียนจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตต่อสมอง หากเป็นผู้ป่วยที่มีปัญหาทางโรคสมอง เป็นอัมพาตที่เคยมีประวัติหลอดเลือดสมองตีบมาก่อน เมื่อได้รับ PM 2.5 จะทำให้อัตราการเกิดสมองตีบในหลอดเลือดเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า ผู้ป่วยที่มีภาวะสมองเสื่อม หรือผู้ป่วยมีภาวะสูงวัยแล้วเกิดสมองเสื่อม PM 2.5 ที่มีขนาดสูงจะไปกระตุ้นต่ออาการ ในผู้สูงวัยที่มีปัญหาโรคภาวะสมองเสื่อม อาทิ เสื่องจากโรคอัลไซเมอร์ เสื่อมจากโรคสูงวัยมาก ทำให้อัตราการนอนโรงพยาบาลสูงขึ้น นำไปสู่โรคของผลแทรกซ้อนมากมาย
ผลกระทบระยะยาว อาจส่งผลให้เกิดโรคอื่นๆตามมา เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคปอด โรคมะเร็ง โรคอัมพาต เป็นต้น โดยจะเปรียบเทียบได้กับบุคคลที่สูบบุหรี่ สิ่งที่สำคัญคือเมื่อเข้าไปในสมองจะเกิดปฏิกิริยาที่เกิดในสมองเรียบร้อยแล้วเกิดสะสมจะเกิดปฏิกิริยาต่างๆ ต่อสมองเป็นอย่างมาก
แนวทางการป้องกัน คือให้ใส่หน้ากาก N 95 งดทำกิจกรรมบริเวณพื้นที่โล่งกลางแจ้ง โรงเรียนหรือบ้าน ควรมีห้องสมุดที่มีเครื่องกรองอากาศ คลีนรูม(ห้องที่มีอากาศสะอาด) เช็คอากาศจากเครื่องวัดค่าอากาศ เผชิญกับ PM 2.5 ให้น้อยที่สุด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก:ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช หัวหน้าหน่วยประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ และเลขานุการและกรรมการบริหารศูนย์โรคสมองภาคเหนือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ด้วยความปรารถนาดีจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สุขภาพ
ข่าวเด่น
ข่าวสาร PM2.5
แกลลอรี่
×
RoomID:
Room Name:
Description: