บุคลากรด่านหน้า แพทย์ พยาบาล รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ฉีดวัคซีนไฟเซอร์แล้ว วันนี้ 1,200 คน ณ หอประชุม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยการคัดกรองบุคลากรตามความเสี่ยงในการสัมผัสโรค พร้อมระดมฉีดบุคลากรด่านหน้าจากโรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่อีก 17 โรงพยาบาล จำนวน 3,858 โดส ภายใน 3 วันนี้
ผศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า “ วันนี้ (วันอังคารที่ 10 ส.ค. 64) เวลา 08.00-15.00น ณ หอประชุม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นวันแรกที่ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ทำการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) ให้กับแพทย์ พยาบาล และบุคลากรด่านหน้า ในรอบนี้จะเป็นการฉีดให้กับ 3 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่มที่รับเป็นเข็มที่ 3 หรือเข็มบูสเตอร์โดส ซึ่งเคยรับวัคซีนซิโนแวค (Sinovac) และวัคซีนซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ครบ 2 เข็ม มาอย่างน้อย 4 สัปดาห์
2. กลุ่มที่เคยรับวัคซีนใดๆมาแล้ว 1 เข็ม และต้องการรับวัคซีนไฟเซอร์ เป็นเข็มที่ 2 โดยต้องมีระยะห่างจากเข็มแรก ตามคำแนะนำของวัคซีนที่ได้รับเป็นเข็มแรกเป็นหลัก
3. กลุ่มที่เคยติดเชื้อโควิด-19 และหายแล้ว 1 เดือนขึ้นไป ที่ต้องการรับวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มกระตุ้น
3 กลุ่มนี้จะได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ใน 3 วันนี้ ได้แก่ วันอังคารที่ 10 ส.ค. 64 จำนวน 1,200 โดส, วันพุธที่ 11 ส.ค. 64 จำนวน 1,500 โดส และวันศุกร์ที่ 13 ส.ค. 64 จำนวน 1,158 โดส โดยในวันนี้ได้ฉีดให้กับบุคลกรของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ มีทั้งแพทย์ พยาบาล จำนวน 1,200 คน
ในการฉีดครั้งนี้สำหรับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) มีความละเอียดอ่อนมาก เนื่องจากวัคซีนมีขั้นตอนในการเตรียมที่ต้องอาศัยความชำนาญ และวัคซีนค่อนข้างบอบบาง จึงทำให้คณะกรรมการมีการกำหนดให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ได้ในโรงพยาบาลเพียง 5 แห่งเท่านั้น คือ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่,รพ.นครพิงค์,รพ.สันป่าตอง,รพ.จอมทอง และรพ.ฝาง
โดย รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ได้รับมอบหมายให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับบุคลากรด่านหน้า จำนวน 17 โรงพยาบาล รวมทั้งสิ้น 3,858 โดส ได้แก่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่,รพ.ประสาทเชียงใหม่ ,รพ.สวนปรุง ,รพ.ส่งเสริมสุขภาพเชียงใหม่ ,รพ.กองบิน 41,รพ.ค่ายกาวิละ,รพ.เชียงใหม่ฮอสพิทอล ,รพ.เชียงใหม่ใกล้หมอ ,รพ.เชียงใหม่ราม ,รพ.เชียงใหม่เมดิคอลเซ็นเตอร์ ,รพ. เซ็นทรัลเชียงใหม่เมโมเรียล,รพ.เทพปัญญา ,รพ.แมคคอร์มิค,รพ.ราชเวชเชียงใหม่,รพ.เทพปัญญา 2 ,ศูนย์สุขภาพเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง,และศูนย์สุขภาพเทศบาลนครเชียงใหม่
ก่อนการฉีดทางรพ.มหาราชนครเชียงใหม่ มีการเตรียมความพร้อมในการฉีดวัคซีนครั้งนี้ โดยมีการซ้อมและจัดระเบียบการฉีด เพราะที่ผ่านมาเราเคยฉีดเฉพาะวัคซีนซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งขั้นตอนไม่ซับซ้อนมาก แต่ในครั้งนี้วัคซีนไฟเซอร์เป็นวัคซีนที่มีโปรตีนที่มีความบอบบาง เราจึงต้องผสมยาในห้องแยก แล้วขนย้ายยาด้วยความระมัดระวังไปฉีดภายใน 30 นาที หลังจากดูดยาออกจากไซริงค์ ดังนั้นทุกขั้นตอนจึงต้องเป็นไปตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด
ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดสรรวัคซีนมาให้ตามภาระงานและตามจำนวนที่เหมาะสม ทางโรงพยาบาลจึงมีการคัดกรองและคัดเลือกบุคลากรที่จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ตามความเสี่ยงในการสัมผัสโรค โดยบุคลากรที่คัดกรองผู้ป่วยโควิด-19 บุคลากรที่ดูแลผู้ป่วยในไอซียูโควิด ห้องตรวจผู้ป่วยโควิด-19 และห้องฉุกเฉิน ตามลำดับ หลังจากนี้จะมีวัคซีนรอบที่ 2 ตามการจัดสรรภายในเร็วๆนี้”
ภาพ / ข่าว : กลุ่มงานสื่อสารองค์กร
งานประชาสัมพันธ์
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่