สับปะรดสี ไม้ดีที่น่าปลูก EP2 : ปลูกอย่างไรดีและเทคนิคที่ควรรู้

23 มิถุนายน 2564

คณะเกษตรศาสตร์

สับปะรดสีเจริญเติบโตได้ดีในสภาพชื้นแต่ไม่แฉะ ดังนั้นวัสดุปลูกจึงควรมีลักษณะโปร่ง ระบายน้ำและอากาศได้ดี แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ที่นิยมใช้คือ ดินใบไม้ผุผสมกับกาบมะพร้าวสับอย่างละ 1 ส่วน หรือนำดินใบไม้ผุผสมกับถ่าน อิฐมอญ โฟมหัก หรือหินภูเขาไฟ เพื่อให้ระบายน้ำได้ดีขึ้น หรือใช้กาบมะพร้าวสับเพียงอย่างเดียวก็ได้ โดยนำกาบมะพร้าวไปแช่น้ำก่อนใช้ 1 – 2 วัน เพื่อให้น้ำยางและสารพิษตกค้างละลายออกมา และให้มีความชุ่มชื้นแต่ไม่ควรแช่นานเกินไปเพราะจะทำให้กาบมะพร้าวผุเปื่อยยุบง่าย หากไม่มีสแฟกนั่มมอส อาจใส่กาบมะพร้าวหรือเฟินกระเช้าสีดา หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ที่โคนต้นเล็กน้อย เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับต้นได้ สำหรับ Neoregelia สามารถปลูกกับกิ่งจากต้นไม้ใหญ่ หรือขอนไม้
ตอไม้ ได้ โดยในช่วงแรกควรใช้สแฟกนั่มมอสมาคลุมบริณที่โคนต้น จะช่วยให้รากเกาะกับกิ่งไม้ได้ดีขึ้น ยกเว้น ทิลแอนเซียที่นิยมปลูกบนขอนไม้
การเลือกใช้ภาชนะปลูก กระถางดินเผาเหมาะสำหรับปลูกสับปะรดมากที่สุด เพราะมีรูพรุนโดยรอบถ่ายเทอากาศได้ดี และเก็บความชุ่มชื้นได้ดี แต่มีข้อเสียคือมีน้ำหนักมาก ยิ่งปลูกไปนานๆ จะมีน้ำหนักมากขึ้น และแตกหักได้ง่าย ในปัจจุบันจึงหันมาใช้กระถางพลาสติกกันมากขึ้นเพราะมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายและหาซื้อได้ง่าย ตลอดจนมีอายุการใช้งานยาวนาน บางคนใช้กระเช้าแขวนกล้วยไม้มาปลูกพวกอิงอาศัยเพราะมีสภาพโปร่ง ระบายน้ำและอากาศได้ดี อย่างไรก็ตามการเลือกภาชนะปลูกที่สำคัญคือไม่ควรเลือกภาชนะที่ใหญ่กว่าขนาดต้น จะทำให้ก้นภาชนะแฉะ รากเจริญได้ไม่เต็มที่ อาจทำให้ต้นเน่าได้ หากต้องการปลูกในภาชนะที่ใหญ่มากขึ้นควรปลูกลงในภาชนะที่มีขนาดเล็กก่อน แล้วนำมาสวมลงในกระถางขนาดใหญ่
เทคนิคที่ควรรู้ในการปลูกสับปะรดสี เริ่มจากภาชนะปลูก สับปะรดสีชอบกระถางดินเผา โปร่ง ขนาดกระถางที่ใช้ต้องเล็กกว่าต้น ถ้ากระถางใหญ่ปกติเครื่องปลูกจะมีความชื้นมาก ระบายน้ำช้า ไม่ควรปลูกต้นจมลึกลงไปในวัสดุปลูกมากเกินกาบใบล่าง วัสดุปลูกถ้ามีเชื้อราเป็นเส้นใยสีขาวหรือเป็นแผ่นที่ผิววัสดุ ให้เปลี่ยนวัสดุปลูกใหม่ ให้เหลือเฉพาะรากที่เกาะวัสดุอยู่เท่านั้น ถ้าในฤดูฝน ความชื้นสูง ควรฉีดพ่นยาป้องกันเชื้อราบ้าง ห้ามใช้ยาที่มีส่วนผสมของ cupper oxide เพราะจะเกิดการแพ้ยา ใบเน่าเป็นจุดๆ หรือตายไปได้ ถ้าต้นแตกหน่อ จนก้านหน่อแข็งแรง ให้รีบตัดหน่อไปปลูกใหม่ ต้นแม่จะได้ไม่โทรม และมีหน่อใหม่ได้เร็วขึ้น ปุ๋ยที่ใช้ควรเป็นปุ๋ยละลายช้า สูตรเสมอ เช่น 14 -14 -14 ที่ใช้ได้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน หมั่นถอนหญ้า มอส และตะไคร่ เพราะทำให้วัสดุปลูกถ่ายเทอากาศได้น้อย ศัตรูแมลงที่พบได้บางครั้ง คือตั๊กแตนกินใบ และเพลี้ยทั่วๆไป เทคนิคเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นมาก ที่จะเพาะเลี้ยงให้ประสบความสำเร็จอย่างสูง เพราะพันธุ์สับปะรดสีที่นิยมส่วนใหญ่โตช้า ราคาแพง ถ้าเพาะเลี้ยงไม่ถูกวิธี สับปะรดสี จะไม่แตกหน่อ ไม่เจริญเติบโต
สีไม่สวย หรือค่อยๆ โทรมตายไปในที่สุด


อ.นิรัช ก้อนใจ นักวิทยาศาสตร์เกษตร
หัวหน้าหน่วยรับปรับปรุงภูมิทัศน์ ศูนย์บริการวิชาการฯ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
แกลลอรี่