CMU
หลักสูตร
แยกตามคณะ
ค้นหาหลักสูตร
ปริญญาตรี
ปริญญาโท
ปริญญาเอก
หลักสูตรอื่นๆ
|
การศึกษา
การรับสมัครระดับปริญญาตรี
การรับสมัครระดับบัณฑิตศึกษา
การรับสมัครหลักสูตรนานาชาติ
ทุนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
|
คณะและหน่วยงาน
คณะ
หน่วยงาน
ส่วนงานอื่นๆ
|
TH
EN
CN
TH
EN
CN
หลักสูตร
แยกตามคณะ
ค้นหาหลักสูตร
ปริญญาตรี
ปริญญาโท
ปริญญาเอก
หลักสูตรอื่นๆ
การศึกษา
การรับสมัครระดับปริญญาตรี
การรับสมัครระดับบัณฑิตศึกษา
การรับสมัครหลักสูตรนานาชาติ
ทุนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คณะและหน่วยงาน
คณะ
หน่วยงาน
ส่วนงานอื่นๆ
ข่าวสาร
ข่าวงานวิจัยและนวัตกรรม
ข่าวเด่น
ข่าวบุคคลเด่น
รางวัลและความภาคภูมิใจ
ประชุมสัมมนา/กิจกรรมของมหาวิทยาลัย
ภาพข่าวผู้บริหาร
ข่าวรับสมัครงาน
ข่าวจัดซื้อจัดจ้าง
ปฏิทินกิจกรรม
COVID-19 และ PM2.5
เกี่ยวกับ มช.
ประวัติความเป็นมา
60 ปี มช.
ปณิธาน/วิสัยทัศน์/พันธกิจ/ค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร
อำนาจหน้าที่
สัญลักษณ์มหาวิทยาลัย
เกี่ยวกับมช.
ข้อมูลสาธารณะ
CMU 360 องศา
SDGs
โครงสร้างองค์กรและการบริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
แผนพัฒนาการศึกษามช. ระยะ 5 ปี
คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย
คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย
ผู้บริหารส่วนงาน
ผู้บริหารหน่วยงาน
สภาพนักงาน
Download CMU Powerpoint Template
ช่องทางการสอบถามข้อมูล (Q&A)
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ติดต่อเรา
เสนอแนะ/ร้องเรียน
ข่าว
วันต้อหินโลก วันต้อหินโลก WORLD GLAUCOMA WEEK จัดขึ้นทุกสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมีนาคมของทุกปี ปีนี้ตรงกับ 10-16 มีนาคม 2567
13 มีนาคม 2567
คณะแพทยศาสตร์
วันต้อหินโลก วันต้อหินโลก WORLD GLAUCOMA WEEK จัดขึ้นทุกสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมีนาคมของทุกปี ปีนี้ตรงกับ 10-16 มีนาคม 2567
ปัจจุบันมีผู้ป่วยต้อหินประมาณ 80 ล้านคน ทั่วโลก จากการศึกษาพบว่าในปี ค.ศ. 2010 มีผู้ป่วยที่ตาบอดจากภาวะต้อหินประมาณ 8.4 ล้านคน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 22 ล้านคน ในปี 2040 ทั้งนี้มีการศึกษาความชุกของโรคต้อหินในประเทศไทยในประชาชนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป พบถึง 3.8 เปอร์เซ็นต์
ภาวะต้อหินส่วนใหญ่ในระยะแรกไม่มีอาการ ผู้ป่วยต้อหินที่มาพบจักษุแพทย์จึงมักมีการทำลายของขั้วประสาทตาค่อนข้างมากซึ่งเป็นระยะท้ายของโรคแล้ว ซึ่งการมองเห็นที่สูญเสียไปจะเป็นการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร การรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจตาเพื่อคัดกรองภาวะต้อหินจึงมีความสำคัญในการป้องกันภาวะตาบอดจากโรคต้อหิน
โรคต้อหินเป็นโรคที่พบค่อนข้างบ่อยและเป็นโรคที่เป็นสาเหตุของตาบอดถาวรอันดับหนึ่ง
โรคต้อหินเกิดจากอะไร
โรคต้อหินเป็นการทำลายขั้วประสาทตาจากความดันตาสูง ส่งผลให้ลานสายตาจะแคบลง และระดับการมองเห็นลดลง
สาเหตุของโรคต้อหินสามารถแบ่งได้ 2 ชนิดได้แก่
1.ปฐมภูมิ คือไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด มักจะเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมรวมถึงสิ่งแวดล้อมอื่นๆ
2.ทุติยภูมิ คือมีสาเหตุของการเกิดโรค เช่น การใช้ยาบางอย่างเช่น ยาสเตียรอยด์ พบภายหลังอุบัติเหตุทางตา หรือพบร่วมกับโรคทางตาอื่นๆ
และหากแบ่งตามกลไกการเกิดต้อหินสามารถแบ่งได้เป็นอีก 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดมุมเปิด และชนิดมุมปิด ซึ่งต้อหินชนิดมุมเปิดพบได้บ่อยกว่า อาการมักค่อยเป็นค่อยไป แต่ชนิดมุมปิดสามารถพบได้มากขึ้นในคนเอเชีย สามารถนำไปสู่ภาวะต้อหินมุมปิดเฉียบพลัน ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการปวดตา ตามัวเฉียบพลัน และเห็นแสงสีรุ้งรอบดวงไฟ
ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นโรคต้อหินได้
ต้อหินพบได้ในทุกวัย แต่ต้อหินมักเกิดในอายุ 40 ปีขึ้นไป และในกลุ่มที่มีประวัติในครอบครัวที่เป็นต้อหินจะมีปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้น สำหรับต้อหินในเด็กมักจะมีอาการแสดงที่ชัดเจน เช่น มีลูกตาที่ค่อนข้างใหญ่ หรือกระจกตาที่ขุ่น ให้ผู้ปกครองสังเกตอาการและสัญญาณเตือน
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงสำคัญ
1.อายุที่มากขึ้น
2.ความดันตาสูง
3.โรคทางตา อาทิเบาหวานขึ้นตา หรือมีประวัติอุบัติเหตุทางตา
4. พันธุกรรม
5. ยาสเตียรอยด์
6. สายตาสั้นหรือยาวมากๆ
การตรวจวินิจฉัยภาวะต้อหินประกอบไปด้วย
-การตรวจวัดความดันตา หากมีความดันตาสูง จะเป็นความเสี่ยงหลักของการเกิดต้อหิน
-การตรวจขั้วประสาทตา จากการตรวจจอรับภาพ และหากสงสัยภาวะต้อหินมักตรวจเพิ่มเติมโดยสแกนจอตา
-การตรวจระดับการมองเห็น ลานสายตา
-การตรวจมุมตา
การรักษาภาวะต้อหินขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของโรค ซึ่งประกอบไปด้วย ยาหยอดตา ยารับประทาน การยิงเลเซอร์ และการผ่าตัด ทั้งนี้เป้าหมายเพื่อควบคุมความดันตาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทำลายต่อขั้วประสาทตา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก :อ.พญ.พิชญา กุลนิวัฒเจริญ อาจารย์ด้านประสาทจักษุวิทยา ประจำภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เรียบเรียง : นางสาวนันทพร ระบิน
ภาพ / ข่าว : กลุ่มงานสื่อสารองค์กร
งานประชาสัมพันธ์
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สุขภาพ
บทความ
ข่าวเด่น
×
RoomID:
Room Name:
Description: