CMU
หลักสูตร
แยกตามคณะ
ค้นหาหลักสูตร
ปริญญาตรี
ปริญญาโท
ปริญญาเอก
หลักสูตรอื่นๆ
|
การศึกษา
การรับสมัครปริญญาตรี
การรับสมัครระดับบัณฑิตศึกษา
การรับสมัครหลักสูตรนานาชาติ
ทุนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
|
คณะและหน่วยงาน
คณะ
หน่วยงาน
ส่วนงานอื่นๆ
|
TH
EN
CN
TH
EN
CN
หลักสูตร
แยกตามคณะ
ค้นหาหลักสูตร
ปริญญาตรี
ปริญญาโท
ปริญญาเอก
หลักสูตรอื่นๆ
การศึกษา
การรับสมัครปริญญาตรี
การรับสมัครระดับบัณฑิตศึกษา
การรับสมัครหลักสูตรนานาชาติ
ทุนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คณะและหน่วยงาน
คณะ
หน่วยงาน
ส่วนงานอื่นๆ
ข่าวสาร
ข่าวงานวิจัยและนวัตกรรม
ข่าวเด่น
ข่าวบุคคลเด่น
รางวัลและความภาคภูมิใจ
ประชุมสัมมนา/กิจกรรมของมหาวิทยาลัย
ภาพข่าวผู้บริหาร
ข่าวรับสมัครงาน
ข่าวจัดซื้อจัดจ้าง
ปฏิทินกิจกรรม
COVID-19 และ PM2.5
เกี่ยวกับ มช.
ประวัติความเป็นมา
60 ปี มช.
ปณิธาน/วิสัยทัศน์/พันธกิจ/ค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร
อำนาจหน้าที่
สัญลักษณ์มหาวิทยาลัย
เกี่ยวกับมช.
ข้อมูลสาธารณะ
CMU 360 องศา
SDGs
โครงสร้างองค์กรและการบริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
แผนพัฒนาการศึกษามช. ระยะ 5 ปี
คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย
คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย
ผู้บริหารส่วนงาน
ผู้บริหารหน่วยงาน
สภาพนักงาน
Download CMU Powerpoint Template
ช่องทางการสอบถามข้อมูล (Q&A)
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ติดต่อเรา
เสนอแนะ/ร้องเรียน
ข่าว
นักวิจัยวิทย์ มช. สังเคราะห์องค์ความรู้การฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมโดยวิธีพรรณไม้โครงสร้าง ซึ่ง FORRU-CMU นำมาใช้ฟื้นฟูป่าภาคเหนือครั้งแรก เมื่อปี 2539
18 กรกฎาคม 2566
คณะวิทยาศาสตร์
นักวิจัย มช. สังเคราะห์องค์ความรู้เทคนิคการฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมโดยวิธีพรรณไม้โครงสร้าง (Framework Species Method: FSM) ซึ่ง FORRU-CMU ได้นำมาใช้ในการฟื้นฟูป่าภาคเหนือเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ พ.ศ. 2539 และปัจจุบันมีการสังเคราะห์ข้อมูลการประยุกต์ใช้เทคนิคนี้ ในกว่า 12 ประเทศทั่วโลก
รศ.ดร.สตีเฟ่น เอลเลียต ผศ.ดร.เดีย พนิตนาถ แชนนอน และ ผศ.ดร.พิมลรัตน์ เทียนสวัสดิ์
หน่วยวิจัยการฟื้นฟูป่า คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (FORRU-CMU) ร่วมกันศึกษาวิจัยในหัวข้อ The framework species method: harnessing natural regeneration to restore tropical forest ecosystems ผลงานได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร Philosophical Transactions of the Royal Society B
งานวิจัยนี้อธิบายแนวทางที่ “วิธีพรรณไม้โครงสร้าง” (Framework Species Method) หรือ FSM สามารถช่วยสร้างความเข้มแข็ง และสนับสนุนหน่วยงานทั่วโลกที่มุ่งฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมให้กลับมาเป็นระบบนิเวศป่าเขตร้อนที่สมบูรณ์
การศึกษานี้ได้นำ FSM ไปเทียบกับวิธีการฟื้นฟูอื่น มีการจับคู่วิธีการกับระดับความเสื่อมโทรม และเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งแปลง การศึกษาได้ระบุถึงอุปสรรคของการนำวิธีการนี้ไปใช้ในวงกว้าง ทั้งในแง่เทคนิคและเศรษฐกิจสังคม รวมถึงแนวทางในการเอาชนะอุปสรรคดังกล่าว ในส่วนท้ายมีการอธิบายคำจัดความของวิธีการที่ชัดเจน เพื่อส่งเสริมการนำไปใช้ประโยชน์ นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายของทศวรรษการฟื้นฟูระบบนิเวศแห่งสหประชาชาติ
ปัจจุบันมีคนนับล้านที่กำลังปลูกต้นไม้พันล้านต้นทั่วโลกเพื่อช่วยฟื้นความหลากหลายทางชีวภาพและช่วยบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก โดยการลดระดับของแก๊สคาร์บอนไดออกไซค์ในชั้นบรรยากาศผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสง จุดหมาย Bonn Challenge มุ่งฟื้นฟูป่ารวม 300 ล้านเฮกตาร์ภายในปี พ.ศ. 2573
อย่างไรก็ตามเป้าหมายที่ท้าทายดังกล่าวยังไม่สามารถบรรลุได้ในปัจจุบัน เนื่องจากขาดเทคนิคที่มีประสิทธิภาพในการทำให้เกิดระบบนิเวศป่าที่สามารถฟื้นตัวได้อีกครั้ง ระบบนิเวศป่าที่ฟื้นตัวตามธรรมชาติสามารถดูดซับคาร์บอนได้มากกว่าพื้นที่วนเกษตร ถึง 6 เท่า และมากกว่าพื้นที่เพาะปลูกถึง 40 เท่า
งานวิจัยนี้ได้อธิบายวิวัฒนาการของ FSM รวมถึงเสนอแนวคิดการนำไปประยุกต์ใช้ในระดับกว้าง หลักฐานดังกล่าวมีความสำคัญอย่างมากต่อความพยายามที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกในการฟื้นฟูป่าเขตร้อน ทั้งนี้ไม่ใช่เพื่อเป้าหมายในการบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเท่านั้น แต่รวมถึงการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ การเป็นแหล่งบริการด้านต้นน้ำ บริการด้านผลิตภัณฑ์จากป่า และการมีส่วนช่วยลดความยากจนของผู้คนในท้ายที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 1 2 6 13 และ 15
ผู้สนใจสามารถอ่านบทความวิจัยได้ที่
https://royalsocietypublishing.org/doi/10.1098/rstb.2021.0073
งานวิจัยและนวัตกรรม
บทความ
ข่าวเด่น
แกลลอรี่
×
RoomID:
Room Name:
Description: