อีกหนึ่งความสำเร็จจากความร่วมมือของ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มช. และ ศูนย์วิจัย ทช. ทะเลอันดามันตอนบน ในการประเมินอายุของพะยูนจากการวัดความยาวของเทโลเมียร์ที่อยู่ในเซลล์ด้วยเทคนิคทางอณูชีววิทยา
คณะสัตวแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ร่วมกับศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน กรมทรัพยากรชายทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประสบความสำเร็จในการวิจัย เพื่อหาวิธีการทำนายอายุของพะยูนได้จากการวัดความยาวของเทโลเมียร์ที่อยู่ในเซลล์ด้วยเทคนิคทางอณูชีววิทยา นับเป็นความสำเร็จในนำเสนอเทคนิคใหม่เพื่อใช้ในประเมินอายุจากเดิมที่ต้องการวัดเส้นทึบแสงในฟันหน้าซึ่งมีข้อจำกัดมากกมาย
พะยูนเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยในทะเล ปัจจุบันประชากรได้ลดลงไปอย่างมา โดยในประเทศไทยพบประมาณ 200 ตัวเท่านั้น อาศัยมากแถบทะเลจังหวัดตรัง จากที่มีจำนวนลดลงอย่างมากจนใกล้สูญพันธ์จึงถูกคุ้มครองด้วยกฏหมายจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2490 พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่า และพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ ปัญหาการอนุรักษ์เพิ่มจำนวนสำคัญของพะยูนคือไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้ รวมถึงยากที่จะเลี้ยงให้รอดชีวิตในพื้นที่จำกัดที่ไม่ใช่ทะเล ตามที่เคยเป็นข่าวดังก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็น “มาเรียม” หรือ “ยามีล”
![](/Content/Article/2021/258b8734-f5db-4af5-8a45-ea3c0124b700/c6800c22-ab4d-4f23-973d-26b9a926474c.jpg)
รองศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.กรกฎ งานวงศ์พาณิชย์ หัวหน้าคณะผู้วิจัยได้ให้ข้อมูลว่า การใช้เทคนิคทางอณูชีววิทยามาวัดความยาวของเทโลเมียร์ซึ่งเป็นดีเอ็นเอส่วนปลายทั้งสองด้านของแท่งโครโมโซม มีการศึกษาในสัตว์หลายชนิดรวมถึงในมนุษย์ โดยผลที่ได้ก็มีความแตกต่างกันบางชนิดให้ผลดี บางชนิดให้ผลไม่ดี โดยมีข้อจำกัดและรายละเอียดปลีกย่อยจำนวนมาก แต่ในผลการศึกษานี้พบว่า สามารถสร้างสมการที่ใช้ในการทำนายอายุพะยูน มีความแม่นยำถึงร้อยละ 86 ซึ่งนับว่าสูงมาก นอกจากนั้นยังพบว่า พะยูนโตเต็มที่เมื่ออายุ 20 ปี ซึ่งถือว่าเป็นองค์ความรู้ใหม่ที่และงานวิจัยนี้ยังได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติเรียบร้อย เป็นการยืนยันว่าการวิเคราะห์ของเราถูกต้อง ประโยชน์ที่ได้จากงานครั้งนี้คือ เราจะมีข้อมูลอายุพะยูนที่เราพบไม่ว่ามีหรือไม่มีเขี้ยวก็ตาม นอกจากนั้นเรายังสามารถใช้เทคนิคนี้มาประเมินอายุพะยูนที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ด้วย
![](/Content/Article/2021/258b8734-f5db-4af5-8a45-ea3c0124b700/ed9d4adb-1495-4643-b614-7bfd6f5456a7.jpg)
ตัวอย่างการนับเส้น dentinal growth layer บนฟันพะยูน (A) โดยนับเส้นทึบและสว่างเป็น 1 ปี (B) นับจากโพรงฟันไปจนถึงปลาย ซึ่งในรูปนับได้ประมาณ 47 คู่ เท่ากับ 47 ปี
แต่พบการสึกของฟันส่วนปลายไปมากจึงเป็นไปว่าต้องมีอายุมากกว่า 47 ปี (ที่มา Cherdsukjai et al., 2020)
![](/Content/Article/2021/258b8734-f5db-4af5-8a45-ea3c0124b700/4d8371d2-46f8-440f-8f3e-33932c8df7f4.jpg)
กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง อายุพะยูนกับน้ำหนักตัว (A) อายุพะยูนกับความยาวลำตัว (B) อายุพะยูนกับความยาวเทโลเมียร์ (C) ความยาวเทโลเมียร์ กับน้ำหนักตัว
(D) ความยาวเทโลเมียร์ กับความยาวลำตัว (E) และน้ำหนักตัวกับความยาวลำตัว (A) (ที่มา Cherdsukjai et al., 2020)
![](/Content/Article/2021/258b8734-f5db-4af5-8a45-ea3c0124b700/7c2e86c7-7562-480a-a521-16230dddceb2.jpg)
ดร. ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาการประมาณอายุของพะยูน ที่พบไม่ว่าจะมีชีวิตหรือตายแล้วนับว่าเป็นปัญหาสำคัญที่เราหาคำตอบได้ยาก เดิมเราใช้วิธีการนับจำนวนเส้นทึบแสงในฟันหรืองาของพะยูนแต่วิธีนี้มีข้อจำกัดมากเนื่องจาก งาของพะยูนมักถูกขโมยไปก่อนที่เจ้าหน้าที่เข้าไปถึง นอกจากนั้นหากงาที่ไม่สมบูรณ์ก็ไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้ และไม่สามารถประเมินอายุพะยูนที่มีชีวิตอยู่ได้ แต่การศึกษาครั้งนี้มีประโยชน์มากเนื่องจากเราเพียงสกัดสารพันธุกรรมจากพะยูนเวลานำมาวิเคราะห์ เราก็จะได้อายุโดยประมาณ แม้จะไม่แม่นยำร้อยละร้อยแต่เพียงเท่านี้ก็นับว่ามีประโยชน์อย่างมาก สำหรับหน่วยงานต่าง ๆ ที่จำนำไปใช้
#CMU #ChiangMaiUniversity #มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนSDGs
#CMUSDGs #CMUSDG9 #CMUSDG14 #CMUSDG17