ร่างกายก็เหมือนเครื่องยนต์ ควรเช็กเป็นระยะ! รู้ก่อน รักษาทัน ตรวจสุขภาพปีละครั้ง เพื่อชีวิตที่ดีตลอดทั้งปี

29 พฤษภาคม 2568

คณะแพทยศาสตร์

ทำไมต้องตรวจสุขภาพประจำปี
หลายคนมักคิดว่า “ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ต้องตรวจ” แต่จริงๆ แล้ว ไม่มีอาการผิดปกติ ไม่ได้แปลว่าไม่มีโรค ร่างกายของเราทำงานตลอด 24 ชั่วโมง แม้ตอนนอน หัวใจก็ยังเต้นไม่หยุด เหมือนเครื่องยนต์ที่ต้องเช็กระยะ หากรอจนมีอาการผิดปกติ อาจสายเกินแก้
การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นการคัดกรองสุขภาพเบื้องต้น ช่วยดูว่าร่างกายยังปกติดีหรือเริ่มมีความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ โดยเฉพาะ โรคที่ไม่แสดงอาการ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ซึ่งมักถูกพบโดยบังเอิญเมื่อไปตรวจสุขภาพประจำปี
ใครที่ควรตรวจ


คำตอบคือ “ทุกคน”
• เด็กเล็ก ตรวจผ่าน “คลินิกเด็กดี” และในช่วงรับวัคซีน
• วัยเรียน โรงเรียนมีการตรวจสุขภาพให้
• หลังจบการศึกษา ควรเริ่มเข้ารับการตรวจเอง โดยแนะนำตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป
• วัยทำงาน–ผู้สูงอายุ ควรตรวจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
ปัจจุบันพบว่า โรคเรื้อรังบางชนิด เช่น ความดันโลหิตสูง หรือมะเร็งบางชนิด เริ่มพบในคนที่อายุน้อยมากขึ้น การตรวจสุขภาพจึงมีความสำคัญ หากมีประวัติเสี่ยงหรือกรรมพันธุ์ยิ่งควรใส่ใจ


ควรตรวจอะไรบ้าง
1. การซักประวัติ
• สุขภาพทั่วไป การใช้ยา พฤติกรรมเสี่ยง (เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ประวัติเพศสัมพันธ์)
• ประวัติครอบครัว เช่น มีคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ มะเร็ง หรือโรคทางพันธุกรรม
2. การตรวจร่างกาย
• วัดความดันโลหิต ชีพจร น้ำหนัก ส่วนสูง เพื่อคำนวณ ดัชนีมวลกาย (BMI)
• วัดรอบเอวเพื่อประเมินภาวะ “อ้วนลงพุง”
• ตรวจตา ปาก ฟัน เต้านม (กรณีผู้หญิง)
3. การตรวจเลือดและทางห้องปฏิบัติการ ตามอายุและความเสี่ยง
• CBC (ตรวจเม็ดเลือด): ตรวจหาภาวะโลหิตจาง
• น้ำตาลในเลือด: คัดกรองเบาหวาน (เริ่มตรวจที่อายุ 35 ปีขึ้นไป ทุก 3 ปี)
• ไขมันในเลือด (คอเลสเตอรอล, HDL): เริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 20 ปี ทุก 5 ปี
• การตรวจปัสสาวะ, การทำงานของไต: ปีละครั้งเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป


การคัดกรองมะเร็ง
สำหรับผู้หญิง:
1.มะเร็งปากมดลูก
• Pap smear: ตรวจทุก 3 ปี (เริ่มที่อายุ 30 ปี) หรือ
• HPV test: ตรวจทุก 5 ปี (อายุ 30–65 ปี) หรือ
• VIA: ทางเลือกอีกวิธี ตรวจทุก 5 ปี
• หากมีเพศสัมพันธ์เร็ว สามารถเริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 25 ปี
2.มะเร็งเต้านม
• ตรวจด้วยตนเองเป็นประจำ
• แนะนำตรวจโดยบุคลากรทางแพทย์ทุก 3 ปี (อายุ 30–39 ปี)
• ตรวจทุกปีเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป
สำหรับผู้ชายและหญิง:
• มะเร็งลำไส้ใหญ่: ตรวจเลือดในอุจจาระ (FOBT) ปีละครั้ง ตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไป
• ไวรัสตับอักเสบบี: แนะนำตรวจ 1 ครั้ง สำหรับผู้ที่เกิดก่อนปี 2535
• ไวรัสตับอักเสบซี: สำหรับผู้มีความเสี่ยง เช่น อาชีพบริการ หรือมีการสัก
สิทธิ์ตรวจฟรีมีอะไรบ้าง
ผู้มีสิทธิ์ประกันสังคม สามารถตรวจสุขภาพได้ฟรี ปีละ 1 ครั้ง (14 รายการ) เช่น
• ตรวจสายตา การได้ยิน
• ตรวจเลือด: CBC, น้ำตาล, ไขมัน, การทำงานของไต
• ตรวจปัสสาวะ
• ตรวจโดยสูตินรีแพทย์ (สำหรับผู้หญิง)


ข้าราชการสามารถเบิกได้ตามสิทธิ หากต้องสำรองจ่าย ให้เก็บใบเสร็จไว้เบิกต้นสังกัด
ตัวอย่างโปรแกรมตรวจจาก “คลินิก 108” โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
• มีโปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับทั้งผู้ที่อายุต่ำกว่าและมากกว่า 35 ปี
• แบ่งตามเพศ พร้อมแนะนำแบบ Standard และ Advanced
• ให้บริการจันทร์–ศุกร์ เวลา 7:30–9:30 น.
• สอบถามหรือจองคิวล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 053-934007
การตรวจสุขภาพประจำปี คือ การลงทุนกับสุขภาพ ที่คุ้มค่าที่สุด
รู้เร็ว ป้องกันได้เร็ว รักษาได้ไว
อย่ารอให้เจ็บป่วยก่อนค่อยมาดูแลตัวเอง เพราะสุขภาพดี…สร้างได้ เริ่มได้ทุกวัน


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : อ.พญ.สุภาวิตา เปลี่ยนน่วม อาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เรียบเรียง : นางสาวนันทพร ระบิน
ภาพ / ข่าว : กลุ่มงานสื่อสารองค์กร
งานประชาสัมพันธ์
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
#MedCMU #คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #แพทย์เชียงใหม่ #แพทย์มช #หมอสวนดอก #โรงพยาบาลสวนดอก #MedCMUในมือคุณ #สื่อสารองค์กรMedCMU

แกลลอรี่