เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ศาสตราจารย์คลินิก นพ. นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้บริหารมหาวิทยาลัย และคณาจารย์จากส่วนงานต่างๆ ร่วมให้การต้อนรับ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานบริหารมูลนิธิโครงการหลวง พร้อมคณะ ในโอกาสเยือนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อหารือความร่วมมือและสนับสนุนทางวิชาการ ระหว่าง มูลนิธิโครงการหลวง กับ มช. ณ ห้อง ตะวัน กังวานพงศ์ สำนักงานมหาวิทยาลัย
ความร่วมมือระหว่างมูลนิธิโครงการหลวงกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2511 โดยเป็นการทำงานของคณาจารย์จากคณะเกษตรศาสตร์ ที่ไปทำงานเป็นอาสาสมัคร ในการวิจัยและพัฒนา ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเกษตร ให้ชาวเขาเลิกปลูกฝื่น มีพืชนานาชนิดเข้าไปปลูกเป็นพืชทดแทนเพื่อให้มีรายได้ และได้มีการนำปศุสัตว์เข้าไปร่วมด้วย หลังจากที่การส่งเสริมให้ชาวเขาปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ไปได้ระยะหนึ่งแล้วนั้น เมื่อมีผลผลิตมากขึ้น มีคณาจารย์อีกกลุ่มได้เข้าไปช่วยเหลือในการแปรรูปผลผลิตเหล่านั้น ทางคณะอุตสาหกรรมเกษตร เริ่มเข้าไปมีบทบาทในการช่วยเหลืองานของทางมูลนิธิเพิ่มขึ้น เมื่อความเป็นอยู่ในการสร้างอาชีพเริ่มดีขึ้น งานทางด้านสาธารณสุข ทางคณะทันตแพทยศาสตร์ ได้เข้าไปช่วยงานทางด้านทันตกรรม เกิดหน่วยทันตกรรมพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ (รัชกาลที่ ๙) ต่อมามีหน่วยแพทย์อาสาและพัฒนาคุณภาพชีวิต จากคณะแพทยศาสตร์และคณะพยาบาลศาสตร์ เข้าไปดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนบนพื้นที่สูง และทำให้เกิดภูมิคุ้มกันต่อปัญหายาเสพติด
คณะเศรษฐศาสตร์ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการวิจัยเรื่องต้นทุนการผลิตผัก ในด้านการศึกษา สำนักหอสมุด ก็ได้จัดทำห้องสมุดเคลื่อนที่และกิจกรรมในโรงเรียนบนพื้นที่สูง จัดทำคลังความรู้ในรูปแบบ e-library มาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน นอกจากคณะต่าง ๆ ที่ได้กล่าวถึงมาแล้วนั้น ยังมีคณาจารย์จากคณะบริหารธุรกิจ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และวิทยาลัยศิลปะ สื่อ ได้เข้ามาร่วมทำวิจัยเพิ่มเติมให้แก่ทางมูลนิธิโครงการหลวงอีกด้วย
การดำเนินการร่วมกับมูลนิธิโครงการหลวงมาอย่างยาวนานนั้น นอกจากจะเป็นการขับเคลื่อนงานของโครงการหลวงให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนารถบพิตร และ พระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวที่จะสืบสาน รักษาและต่อยอดงานโครงการหลวงแล้ว นั้น ยังก่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ และส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่สูงในเขตพื้นที่ภาคเหนือต่อไป