มช. ร่วมติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาคลองแม่ข่า บริเวณถนนระแกงเชียงใหม่ ปรับภูมิทัศน์ ทางเดินเท้า บำบัดน้ำเสีย ลุล่วงไปแล้วกว่า 90 % เตรียมเป็นจุด Check in และสร้างเศรษฐกิจให้แก่ชุมชน
20 กรกฎาคม 2565
ศูนย์สื่อสารองค์กรและนักศึกษาเก่าสัมพันธ์
.
คณะทำงานวิชาการเพื่อสนับสนุนด้านการบริหารจัดการน้ำ มช. นำโดย รองศาสตราจารย์ ชูโชค อายุพงศ์ ประธานคณะทำงานฯ เป็นผู้แทนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ลงพื้นที่กับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจติดตามความคืบหน้าการพัฒนาคลองแม่ข่า ที่บริเวณสะพานระแกงถึงบริเวณหลังวัดหัวฝาย ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 750 เมตร ซึ่งปัจจุบันได้มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ความคืบหน้าการทำงานเสร็จลุล่วงไปแล้วกว่า 90 % ทั้งการปรับภูมิทัศน์ ทางเดินเท้า การบำบัดน้ำเสีย และเตรียมให้เป็นจุดแลนด์มาร์คที่สำคัญของคลองแม่ข่าในอนาคตอันใกล้
.
ในการตรวจติดตามงานเป็นที่น่าพอใจ เพราะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน คาดว่าในอนาคต สถานที่แห่งนี้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยว จุด Check in และสร้างเศรษฐกิจภายในชุมชน เบื้องต้นพบว่าสภาพปัจจุบันภูมิทัศน์ตลอดสองฝั่งคลองแม่ข่าช่วงนี้มีความเป็นระเบียบสวยงาม ขณะที่ผู้ที่มีบ้านพักอาศัยริมฝั่งคลองต่างได้ใช้ประโยชน์ปลูกผักสวนครัวและไม้ประดับตามริมตลิ่งทั้งสองฟากฝั่งคลองที่ปรับปรุงด้วยการเรียงบล็อกคอนกรีต รวมทั้งการไหลของน้ำและคุณภาพน้ำดีขึ้นอย่างชัดเจนเปลี่ยนแปลงจากอดีตเป็นอย่างมาก จนผู้ที่พบเห็นต่างแสดงความชื่นชมและเปรียบเทียบกับภูมิทัศน์คลองที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ พร้อมทั้งยกให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเชียงใหม่และนำภาพไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย
.
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ร่วมสนับสนุนจังหวัดเชียงใหม่ ในการวางแผนมาตรการเร่งด่วน Quick Win 3 ประเด็นคือ การจัดการให้มีน้ำต้นทุนไหลในคลองแม่ข่า การศึกษาและออกแบบระบบบำบัดและรวบรวมน้ำเสียเพิ่มเติม และการปรับปรุงสภาพคลองและภูมิทัศน์ตลอดแนว รวมทั้งการบริหารจัดการที่อยู่อาศัยของชุมชนที่รุกล้ำลำน้ำ โดยจังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการตามแผนแม่บทคลองแม่ข่า และได้จัดทำแผนปฏิบัติการ หรือไทม์ไลน์ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการกำกับ ติดตาม และขับเคลื่อนการทำงานให้มีความต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ
.
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก คณะทำงานวิชาการเพื่อสนับสนุนด้านการบริหารจัดการน้ำ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ Facebook page : PR Chiangmai