ผลงานวิจัยจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรื่อง Feline Erythrocytic Osmotic Fragility in Normal and Anemic Cats-A Preliminary Study ได้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติ Veterinary Sciences (Published: 3 March 2025)

13 กรกฎาคม 2568
คณะสัตวแพทยศาสตร์
หนึ่งในผลงานวิจัยจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรื่อง Feline Erythrocytic Osmotic Fragility in Normal and Anemic Cats-A Preliminary Study ได้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติ Veterinary Sciences (Published: 3 March 2025) ซึ่งอยู่ในฐานข้อมูล ISI Quartile 1 (Journal Impact factor 2.3), SJR Quartile 1 และ Scopus Quartile 1

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.mdpi.com/2306-7381/12/3/236

งานวิจัยเรื่อง Feline Erythrocytic Osmotic Fragility in Normal and Anemic Cats-A Preliminary Study มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความแข็งแรงของเยื่อหุ้มเม็ดเลือดแดงและลักษณะเฉพาะของเม็ดเลือดแดงในแมวที่ไม่มีภาวะโลหิตจางและแมวที่มีภาวะโลหิตจาง โดยใช้การทดสอบความเปราะของเม็ดเลือดแดงด้วยวิธีออสโมติก (osmotic fragility test) และการวิเคราะห์ด้วยโฟลไซโตเมตรี (flow cytometry) จากตัวอย่างเลือดของแมวที่ไม่มีภาวะโลหิตจาง 18 ตัว และตัวอย่างเลือดของแมวที่มีภาวะโลหิตจาง 18 ตัว ซึ่งแบ่งออกเป็นกลุ่มแมววัยผู้ใหญ่และแมวสูงวัย ได้รับการตรวจวิเคราะห์จำนวนเม็ดเลือด (CBC), เคมีเลือด, การทดสอบความเปราะของเม็ดเลือดแดง และการวิเคราะห์ด้วยโฟลไซโตเมตรี ผลการศึกษาไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในค่าความเปราะของเม็ดเลือดแดงระหว่างกลุ่มแมวที่มีและไม่มีภาวะโลหิตจางในทั้งสองช่วงอายุ อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์ด้วยโฟลไซโตเมตรี พบว่า แมวสูงวัยที่ไม่มีภาวะโลหิตจางมีค่าการกระเจิงแสงไปข้างหน้า (forward scatter) สูงกว่าแมวสูงวัยที่มีภาวะโลหิตจาง ขณะที่แมววัยผู้ใหญ่ที่ไม่มีภาวะโลหิตจางมีค่าการกระเจิงแสงด้านข้าง (side scatter) สูงกว่าแมววัยผู้ใหญ่ที่มีภาวะโลหิตจาง ผลลัพธ์เหล่านี้บ่งชี้ว่า แม้ว่าค่าความเปราะของเม็ดเลือดแดงจะไม่เปลี่ยนแปลงตามภาวะโลหิตจาง แต่ขนาดและความหนาแน่นของเม็ดเลือดแดงมีความแตกต่างกันตามอายุและสถานะสุขภาพ ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นในการศึกษาคุณลักษณะของเม็ดเลือดแดงเพิ่มเติมในโรคต่าง ๆ ต่อไป

แกลลอรี่