1 มิถุนายน วันดื่มนมโลก

1 มิถุนายน 2565

คณะแพทยศาสตร์

องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (The Food and Agriculture Organization)ได้กำหนดให้วันที่ 1 มิถุนายนของทุกปีเป็น "วันดื่มนมโลก" (World Milk Day) เพื่อให้ประเทศต่างๆ และองค์กร ให้ความสำคัญและสนับสนุนการบริโภคนม
นมเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับทุกวัย เพราะในนมมีโปรตีนคุณภาพดีและมีปริมาณแคลเซียมสำหรับการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน โดยเฉพาะนมโคสดแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ไขมันต่ำ รสจืดมีคุณค่าทางโภชนาการดีกว่านมที่มีการปรุงแต่งด้วยน้ำตาลและกลิ่น เนื่องจากมีแคลเซียมในปริมาณมาก ช่วยสร้างกระดูกที่มีผลต่อพัฒนาการด้านความสูง
จากผลสำรวจล่าสุดพบว่า คนไทยดื่มนมน้อยมาก เฉลี่ยคนละประมาณ 14 ลิตรต่อปี ในขณะที่อัตราการดื่มนมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เฉลี่ยคนละ 60 ลิตรต่อปี และทั่วโลกเฉลี่ยคนละ 103.9 ลิตรต่อปี หรือกล่าวได้ว่าอัตราดื่มนมในคนไทยยังต่ำกว่าประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโลก 4-7 เท่า (อ้างอิงข้อมูลโดยกรมอนามัย)
นมเป็นแหล่งอาหารประเภทโปรตีนที่มีคุณภาพดี ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย และสำคัญมากต่อมวลกระดูกและการขยายตัวของกระดูก ช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง ในช่วงวัยรุ่นที่เริ่มมีช่วงโตเร็วจะมีการสะสมมวลกระดูกเพิ่มขึ้นมาก ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายในผู้ใหญ่
นอกจากนี้นมยังมีวิตามินต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามิน บี 1 ,บี 2 ,บี 6, บี 12, วิตามินดี แคลเซียม และฟอสฟอรัสบำรุงกระดูกให้แข็งแรง
ทั้งนี้ในมุมมองของนักโภชนาการ (นักกำหนดอาหารวิชาชีพ) ตามหลักการบริโภคอาหารของธงโภชนาการ แนะนำว่า
ในกลุ่มเด็กก่อนวัยเรียน 1 ขวบปีขึ้นไปและเด็กวัยเรียน ควรเลือกดื่มนมรสจืด 2 แก้วต่อวัน (โดยปริมาตรนม 1 แก้ว เท่ากับ 240 มล.) ช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง สำหรับเด็กที่มีสุขภาพดีปกติ ควรดื่มนมครบส่วน ไม่ควรเลือกดื่มนมพร่องมันเนยหรือไร้ไขมัน เพราะมีแหล่งพลังงาน คือ ไขมันและวิตามินเอ,ดี, อี, เค ซึ่งละลายในไขมัน และในเด็กที่มีภาวะโภชนาการเกินเกณฑ์ (เด็กอ้วนหรือเด็กที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์) สามารถเลือกดื่มนมพร่องมันเนยได้ เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำหนักตัว
ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรควรเลือกดื่มนมรสจืด วันละ 2 แก้วและบริโภคปลาเล็กปลาน้อย 2 ช้อน กินข้าวหรือผักใบเขียวเข้ม 4 ทัพพี หรือเต้าหู้แข็ง 1 แผ่นเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกระดูกของทั้งมารดาและทารกในครรภ์
ในกลุ่มวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ แนะนำให้ดื่มนมรสจืดพร่องมันเนยหรือไร้ไขมันวันละ 2 แก้ว เพื่อให้ได้รับแร่ธาตุแคลเซียมเพียงพอ ป้องกันภาวะกระดูกพรุน
ผู้ที่ปัญหาภาวะไขมันในเลือดสูง ควรเลือกดื่มนมรสจืดพร่องมันเนย หรือนมไร้ไขมัน ดีกว่านมปรุงแต่งรส
การเลือกดื่มนมและผลิตภัณฑ์นม ควรสังเกตที่มีเครื่องหมาย อย. รับรองอย่างถูกต้อง และอ่านฉลากข้อมูลโภชนาการข้างผลิตภัณฑ์ว่ามีน้ำนมโคสดแท้กี่เปอร์เซ็นต์ ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำนมโคสดแท้ที่เปอร์เซ็นต์สูงกว่า จะได้รับสารอาหารจากนมมากกว่า
นอกจากนี้ "นม" ยังเป็นเครื่องดื่มที่มอบความสดชื่นไม่แตกต่างจากน้ำดื่ม การดื่มนมเพียงหนึ่งหรือสองแก้วจะช่วยทำให้รู้สึกสดชื่น และยังทำให้ได้รับคุณค่าสารอาหารที่ร่างกายต้องการอีกด้วย
ส่วนใครที่เลี่ยงการดื่มนม เพราะเชื่อว่านมทำให้อ้วนนั้น ความจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นนมสด นมพร่องไขมัน หรือนมไม่มีไขมัน มีปริมาณไขมันแค่เพียง 3.9% , 1.7% และ 0.3% เท่านั้น
รู้อย่างนี้แล้ว มาเริ่มต้นดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย และปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหารในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงกันดีกว่า
ข้อมูลโดย คุณนฤมิตร บ้านคุ้ม นักโภชนาการ งานโภชนาการ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


เรียบเรียง : น.ส. ธัญญลักษณ์ สดสวย
ภาพ / ข่าว : กลุ่มงานสื่อสารองค์กร
งานประชาสัมพันธ์
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
#MedCMU #MedCMUในมือคุณ
#คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
#สื่อสารองค์กรMedCMU
#วันดื่มนมโลก

แกลลอรี่