มช. พร้อมทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เปิดใช้อาคารหอพักจำนวน 129 ห้อง เป็นสถานที่แยกกักกันโรคของชุมชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

12 มกราคม 2565

คณะแพทยศาสตร์

มช. พร้อมทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เปิดใช้อาคารหอพักจำนวน 129 ห้อง เป็นสถานที่แยกกักกันโรคของชุมชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ "COMMUNITY ISOLATION CMU" เพื่อรองรับ-ดูแลรักษานักศึกษาและบุคลากร มช. ที่ติดเชื้อโควิด-19 ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และจัดระบบการดูแลผ่านระบบแพทย์ทางไกล Telemedicine ตลอด 24 ชั่วโมง

ผศ.นพ. นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ นับเป็นระลอกที่ 6 ซึ่งเกิดจากการระบาดในร้านอาหารและสถานบันเทิงช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา จนกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่หลายแห่ง ลักษณะนี้เราเชื่อว่าจะมีผู้ป่วยจำนวนมากกว่าการระบาดในระลอกก่อนหน้านี้

"ปัจจุบันแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิดฯ จะมีการรักษา ประเมินตามอาการโดยโรงพยาบาลหลักทุกแห่งจะไม่รับผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลทั้งหมด เนื่องจากโรงพยาบาลต้องสงวนเตียงไว้สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการค่อนข้างหนัก (เคสอาการเหลือง ส้ม แดง) สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงหรือกลุ่มอาการสีเขียว จะเน้นให้แยกกักตัว ดูแลตัวเองที่บ้าน (Home Isolation) ตามแนวทางของทางจังหวัด โดยที่จะมีแพทย์พยาบาลคอยดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดผ่านระบบแพทย์ทางไกล แต่ทั้งนี้อาจมีบางกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถรักษาตัวในบ้านได้ ด้วยเหตุจำเป็นบางประการเช่น อยู่บ้านร่วมกับผู้สูงอายุ ไม่สามารถแยกห้องน้ำได้ พื้นที่คับแคบ เป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้อยู่ร่วมบ้านเดียวกัน หรือมีข้อจำกัดที่ไม่อาจอยู่ในหอพัก คอนโด ด้วยเหตุที่เจ้าของหอพักไม่อนุญาตให้ผู้ป่วยอยู่ในหอ
กรณีเช่นนี้จำเป็นจะต้องให้การรักษาในสถานที่เฉพาะที่เรียกว่า "การแยกกักโรคของชุมชน" หรือ Community Isolation"

ผศ.นพ. นเรนทร์ เปิดเผยอีกว่า การระบาดของโควิดระลอกนี้ ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ พบว่ามีบุคลากรและนักศึกษา มช. มีการติดเชื้อและมีอาการป่วยจำนวนหนี่ง หากเป็นช่วงกลางปีที่ผ่านมา ที่เรายังมีความเข้าใจโรคไม่มากนัก ผู้ป่วยจะได้รับรักษาตัวที่ รพ.สนาม แต่ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนแนวทางและ วิธีการรักษาแล้วจาก รพ.สนาม เปลี่ยนเป็นวิธีการที่เรียกว่า "การแยกกักตัวของชุมชน" แทน ซึ่งแนวคิดคือ การนำผู้ป่วยที่รักษาตัวที่บ้านไม่ได้ มารวมตัวกัน ภายใต้การดูแลของชุมชน พร้อมกับมีทีมแพทย์พยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิดผ่านระบบแพทย์ทางไกล (telemedicine) มีการประสานงานทุกขั้นตอนของการรักษาโดยการส่งข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน ที่จะทำให้แพทย์และพยาบาลติดตามอาการผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากแนวโน้มการระบาดดังกล่าว ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) พร้อมทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ได้ทำการเปิดพื้นที่อาคารหอหญิง 11 ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อใช้เป็นสถานที่แยกกักฯ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ "COMMUNITY ISOLATION CMU" เพื่อรองรับการดูแลรักษานักศึกษาและบุคลากร มช. ที่ติดเชื้อโควิด-19 ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข

สำหรับอาคารหอพักที่ใช้ในการดูแลรักษานี้ เป็นอาคาร 5 ชั้น การดูแลจะแบ่งเป็นชั้นของผู้ชาย และชั้นของผู้หญิง โดยที่บุคลากร และนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ป่วยด้วยโควิท 19 สามารถเข้ารับการรักษาได้ ทีมแพทย์และพยาบาลจะให้ผู้ป่วยเหล่านี้เข้ามาอยู่ในกลุ่มของการดูแลที่ใช้ LINE 0fficial Accountหรือ Line 0A เมื่อเข้ามาในระบบแล้วจะมีการให้ความรู้ คำแนะนำ การรับประทานยาต่างๆ การดูแลขยะติดเชื้อ รวมไปถึงการส่งยา ส่งอาหารให้ผู้ป่วยถึงที่

ผู้อำนวยการ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เปิดเผยอีกว่า การรักษาลักษณะนี้จะมีการติดตามอาการทุกวันโดยผู้ป่วยจะต้องส่งข้อมูล จากการวัดออกซิเจนในเลือด วัดอุณหภูมิร่างกาย และส่งตัวเลขเหล่านี้เข้ามาในระบบ ทั้งแพทย์และพยาบาลจะดูข้อมูลในระบบและติดตามอาการโดยผ่านการส่งข้อคงาม หรือการทำวีดีโอคอล ทำลักษณะนี้อย่างต่อเนื่องทุกวัน หากมีอาการหนักหรือมีการเปลี่ยนแปลง ทางโรงพยาบาลจะส่งทีมแพทย์ไปรับและนำเข้าสู่กระบวนการรักษาในโรงพยาบาล หากอาการไม่มาก จะให้การรักษา 10 วัน ก็ถือว่ากระบวนการรักษาเสร็จสิ้น สามารถออกจาก COMMUNITY ISOLATION ได้

อย่างไรก็ตาม ยังย้ำว่า หากผู้ป่วยรายใดสามารถแยกกักตัว รักษาตัวที่บ้านได้ก็ให้เลือกอยู่ที่บ้านของตนเองก่อน โดยโรงพยาบาลจะมีทีมงานดูแลรักษาติดตามอาการอย่างใกล้ชิด มียา มีอาหารส่งถึงบ้านเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อให้การรักษาผู้ที่เจ็บป่วยจากการระบาดขนาดใหญ่นี้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ และเพื่อสงวนเตียงในโรงพยาบาลไว้สำหรับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้อย่างแท้จริง


ภาพ / ข่าว : กลุ่มงานสื่อสารองค์กร
งานประชาสัมพันธ์
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

แกลลอรี่